10 “สมุนไพร” ในบ้าน ช่วย “แก้หวัด” ป้องกัน “โควิด-19” พร้อมแนะวิธีทำด้วยขั้นตอนง่ายๆ รักษาดูแลแบบธรรมชาติ ไร้สารพิษ
“เราติด ไม่ติด..เราติดแล้วยังนะ” ดูจะเป็นคำถามที่หลายๆ คนมักเฝ้าถามตัวเองตลอดเวลา ยิ่งหากใครมีอาการไข้ น้ำมูลไหล หรือปวดเมื่อยร่างกาย จะกังวลมากขึ้นไปอีก เพราะนั่นเป็นหนึ่งในอาการของ “ผู้ป่วยโควิด-19” เพราะต่อให้การแพร่ระบาด “โควิด -19” ระลอกนี้ จะไม่แสดงอาการทันทีเมื่อป่วย หรือหลายคนอาจไม่มีอาการ แต่ “อาการไข้ขึ้นสูง” เป็นหนึ่งอาการที่ทุกคนต้องคอยเฝ้าสังเกตตัวเองและคนรอบข้าง “สมุนไพร” ใกล้ตัว ในบ้านของทุกคนที่มีสรรพคุณแก้หวัด และ “สมุนไพร”บางชนิดยังสามารถรักษาอาการเบื้องต้น ของ “โควิด -19” ได้ด้วย อย่าง “ฟ้าทะลายโจร” สมุนไพรยอดฮิต ขณะนี้ตอนนี้กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก
- “สมุนไพร”แก้หวัด ป้องกัน “โควิด-19″
“สมุนไพร” สามารถใช้แก้หวัด ป้องกันได้หลากๆ โรค และผลการวิจัยยืนยันแล้วว่า “ฟ้าทะลายโจร” นอกจากแก้หวัดได้แล้ว ยังนำมารักษาร่วมกับ “โควิด-19” ได้ด้วย
ขอบคุณที่มา:กรุงเทพธุรกิจ
1.“ฟ้าทะลายโจร” มีสรรพคุณแก้ไข้ แก้อักเสบ แก้เจ็บคอ เป็นสมุนไพรพื้นบ้านรสขมที่นิยมนำมาใช้รักษาหวัดตั้งแต่โบราณ ซึ่งประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลากชนิด เช่น ไดเทอร์ปีนอยด์ (Diterpenoids) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและการติดเชื้อ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และอาจช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ วิธีทำคือ ใช้ใบของต้นฟ้าทะลายโจร นำมาตากแห้งแล้วบดให้เป็นผงปั้นกับน้ำผึ้งเป็นยาลูกกลอน แล้วรับประทานได้ทันทีเมื่อมีอาการหวัด ขณะที่ “ฟ้าทะลายโจร” ในการรักษา “ผู้ป่วยโควิด-19” ที่อาการไม่หนัก โดย กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก พบว่า สารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ในฟ้าทะลายโจรน่าจะมีศักยภาพในการช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโคโรนาเข้าเซลล์และป้องกันการแบ่งตัวของโคโรนาไวรัสได้
ขอบคุณข้อมูลและเคดิตภาพ:กรุงเทพธุรกิจ
ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ดำเนินการศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูง ต่อผู้ป่วยโรคโควิด-19 หลังจากการวิจัยในหลอดทดลอง พบว่า มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยังยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้
“ฟ้าทะลายโจร” ปลูกง่าย ราคาถูก จากการเปรียบเทียบในยาชนิดอื่นที่ผู้ป่วยโควิดใช้ต่อราย พบว่า พาราเซตามอล ราคา 60 บาท ผลที่ได้ คือ ลดไข้ , ฟ้าทะลายโจร 180 บาท (ใช้ 5 วัน) ผลที่ได้ คือ ลดไข้ ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อไวรัส ขณะที่ ฟาวิพิราเวียร์ 4,800 บาท ผลที่ได้ ฆ่าเชื้อไวรัส
ดังนั้น การใช้ “ฟ้าทะลายโจร”น่าจะเป็นทางเลือกในการยุติโรค และลดการใช้ฟาวิพิราเวียร์ ลดอัตราการเสียชีวิต ลดการเข้าไอซียูซึ่งต้องใช้มูลค่าหลักล้านต่อราย อย่างไรก็ตาม ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ และ ใช้เพียง 5 วันเท่านั้น
- “สมุนไพร” ใกล้ตัว รักษาแบบธรรมชาติ ไร้สารพิษ
2.“กระเทียม” เป็นพืชที่นิยมนำมาใช้รักษาหวัดอย่างยาวนาน เพราะเชื่อว่ากระเทียมอาจมีคุณสมบัติต้านเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารชีวภาพหลากชนิด เช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) ซีลีเนียม (Selenium) และอัลลิซิน (Allicin) ที่อาจช่วยรักษาหวัดได้การใช้กระเทียม จะช่วยรักษาอาการเจ็บคอ มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย และช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
วิธีทำคือ ให้นำกระเทียมมาปอกเปลือกและสับให้ละเอียด จากนั้นก็รับประทานแบบสด ๆ กันไปเลย
อย่างไรก็ตาม การบริโภคกระเทียมอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ปากเหม็น มีกลิ่นตัว แสบร้อนกลางอก ปวดท้อง โดยเฉพาะการบริโภคกระเทียมสดอาจทำให้อาการเหล่านี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
3.“หอมแดง” มีสรรพคุณช่วยให้หายใจสะดวกและโล่งขึ้น เป็นสมุนไพรที่คนเฒ่าคนแก่นิยมนำมาทุบให้แตกแล้ววางไว้ใกล้ ๆ ศีรษะเพื่อให้เด็กสูดดมตามความเชื่อว่าช่วยรักษาหวัดได้ ในทางวิทยาศาสตร์หอมแดงมีสารประกอบกลุ่มออร์กาโนซัลเฟอร์ (Organosulfur) เช่น ไดแอลลิลไดซัลไฟด์ (Diallyl Disulphide) ไดแอลลิลไตรซัลไฟด์ (Diallyl Trisulfide) เอสอัลลิลซิสเทอีน (S-Allyl Cysteine) และอัลลิซิน (Allicin) เชื่อว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอาจช่วยรักษาโรคหวัดได้
วิธีทำคือ นำหัวหอมแดงมาทุบให้พอบุบ จากนั้นห่อด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำไปวางไว้ใกล้ ๆ หมอนของผู้ที่เป็นหวัด รับรองจมูกโล่ง หายใจคล่องแน่นอนค่ะ
- รวมมิตร”สมุนไพร”มะนาว ขิง ตะไคร้ แก้ไข้ ไอ เสมหะ
4.“มะนาว”ผลไม้รสเปรี้ยวที่อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารอาหารมากมายที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายและระบบภูมิคุ้มกัน มะนาวสามารถบรรเทาอาการจากหวัดได้ โดยเฉพาะอาการเจ็บคอ ช่วยให้หายใจโล่ง ลดอาการไอ ลดเสมหะ โดยต่างประเทศมีการใช้มะนาวเหลืองหรือเลมอนเป็นยาพื้นบ้านในการแก้หวัดด้วย แต่การศึกษาในด้านนี้ยังคงมีจำกัด จึงยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่ามะนาวจะช่วยรักษาหวัดได้
วิธีทำคือ นำมะนาวมาคั้นให้ได้น้ำ จากนั้นให้ผสมกับน้ำผึ้งและนำมาชงกับน้ำร้อน ดื่มอุ่น ๆ หายใจโล่ง บรรเทาอาการไอได้ดี
ทั้งนี้ การบริโภคมะนาวเป็นอาหารในปริมาณที่พอเหมาะนั้นค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับการบริโภคเป็นปริมาณมาก และการบริโภคในระหว่างที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมะนาวในปริมาณมาก เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้
5.“ขิง” มีสรรพคุณแก้ไอและขับเสมหะ โดยมีการทดลองพบว่า น้ำขิงแก่ ต้มน้ำเดือนนาน 30 นาที ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาส จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น
วิธีทำคือ เลือกขิงแก่ นำมาหั่นให้เป็นแว่น ตำและคั้นเอาน้ำ หรือนำมาต้มกับน้ำเปล่า 1 ลิตร โดยต้มประมาณ 5 นาที แล้วตักเอาขิงออก เอาแต่น้ำขิงมาดื่มขณะอุ่นๆ โดยดื่มครั้งละ 1 แก้ว เช้า กลางวันและเย็น น้ำขิงจะช่วยลดน้ำมูกลงได้ หรือจะนำมาผสมกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย แล้วดื่ม
6.“ตะไคร้” สามารถใช้รักษาหวัด หวัดใหญ่ แก้ไข้ แก้ปวดหัว ปวดท้อง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ดีเยี่ยม ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แก้อักเสบ และต้านไวรัสไข้หวัด
วิธีทำคือ บุบต้นตะไคร้ 3-4 ต้นให้แตก นำมาต้มกับน้ำเปล่า 1 ลิตรให้เดือด แล้วยกลง รินเอาแต่น้ำมาจิบบ่อยๆ ตลอดทั้งวัน เพราะตะไคร้ก็เป็นสมุนไพรแก้คัดจมูกที่ได้ผลดีเช่นกัน แถมยังช่วยแก้อาการน้ำมูกไหลจากหวัดได้อีกด้วย
- วิธีทำ “สมุนไพร” ด้วยขั้นตอนแสนง่าย! ใครๆ ก็ทำได้
7.“หัวหอมใหญ่” จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีและช่วยขับเสมหะ มีสารเคอร์ซิติน (Quercetin) ซึ่งเป็นยาขยายหลอดลม ที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน ฤทธิ์ต้านฮิสตามีน ช่วยขยายหลอดลม และหอมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายจึงสามารถรักษาอาการหวัด
วิธีทำคือ ล้างหัวหอมใหญ่ให้สะอาด และนำไปห่อผ้าขาวบางแบบหลวม ๆ ใช้สูดดม หรือจะทำไปฝากคนที่มีอาหารหวัดคัดจมูก จะช่วยให้อาการดีขึ้น
8.“พริก” สมุนไพรที่ใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน เนื่องจากภายในผลพริกซึ่งมีเมล็ดติดอยู่จะมีสารแคปไซซินที่ก่อให้เกิดความเผ็ด ความเผ็ดร้อนนี้จะทำให้ร่างกายขับเหงื่อและขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้ โดยจะนำสารแคปไซซินที่สกัดได้จากผลพริกมาใช้เป็นส่วนผสมของยาต่างๆ ทั้งชนิดรับประทานและทาภายนอก เช่น ยาแก้หวัด และสามารถรักษาอาการไอได้ด้วย
วิธีทำคือ ให้นำต้นพริก ยกเว้นในส่วนของเม็ดพริก มาล้างหน้าให้สะอาดจากนั้นนำมาสับเป็นท่อนสั้นๆ แล้วตากแดดจนแห้ง นำต้นพริกที่ตากแดดจนแห้งแล้วประมาณ 15 กรัมมาต้มกับน้ำ 1 ลิตรให้เดือด รินเอาแต่น้ำมาดื่มก่อนอาหาร โดยดื่มครั้งละ 1 แก้ว ช่วงเวลาเช้า-เย็น สรรพคุณของมันจะช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
- เริ่มดูแลตัวเอง รับประทาน “สมุนไพร”ปริมาณพอเหมาะ
9.“มะขามป้อม” ตามตำรับยาไทยสามารถ “แก้หวัด” ผลมะขามป้อมมีสรรพคุณ“แก้หวัด” แก้ไอได้ดี เป็นที่รู้กันในทุกประเทศที่มีมะขามป้อม ซึ่งอาจเนื่องมาจากวิตามินซีหรือสารในกลุ่มแทนนิน อาการเป็นหวัด ไอ เจ็บคอ ปากคอแห้ง
วิธีทำคือ ให้ใช้ผลสด 15-30 ผล คั้นเอาน้ำมาจากผลหรือต้มทั้งผลแล้วดื่มแทนน้ำเป็นครั้งคราวหรือจะทานเป็นผลสดจิ้มกับเกลือและรับประทาน
10.“กะเพรา” สมุนไพรที่คนไทยนิยมใช้แก้ไอ “แก้หวัด“ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
วิธีทำคือ นำใบกะเพรามาทำเป็นอาหาร หรือให้นำ เอาใบกระเพราสด(กระเพราแดงหรือกระเพราเขียวก็ได้) 1-2กำมือไปต้มใส่น้ำพอท่วมต้ม โดยต้มจนให้เหลือน้ำเพียงครึ่งหนึ่ง จากนั้น เอาน้ำมาดื่ม โดยดื่มวันละ 2-3 แก้ว และ ดื่มได้เรื่อยๆจนกว่าอาการจะดีขึ้น การต้มควรใช้เพียงครั้งเดียวไม่ควรต้มซ้ำ
เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก แถมยังมีพายุเข้าในประเทศไทยอีก “การดูแลสุขภาพ” มีความจำเป็นอย่างมาก ฉะนั้น นอกจากต้องปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ไปไหนมาไหนสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงแล้ว อย่าลืม!! ดูแลสุขภาพของตนเอง ให้ห่างไกลจากไข้หวัด หรือโรคอื่นๆ รวมถึงควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ร่วมกันดูแลตัวเอง ครอบครัว และสังคม
ขอบคุณที่มา:กรุงเทพธุรกิจ