ข้อมูลและภาพโดย:https://www.scgbuildingmaterials.com/
สำหรับบ้านสร้างใหม่ เมื่อขั้นตอนการก่อสร้างดำเนินมาจนกระทั่งตัวบ้านทั้งภายนอกและภายในเกือบจะ เสร็จสิ้นแล้ว เจ้าของบ้านคงตื่นเต้นไม่น้อยที่บ้านในฝันของตนเองใกล้จะเป็นความจริงเข้าไปทุกที จะเหลือก็เพียงขั้นตอนการเก็บงานต่างๆ เพื่อความเรียบร้อย และในที่นี้รวมถึง “การเทพื้นคอนกรีตเป็นถนนทางเข้าหน้าบ้าน” ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม
การเทพื้นคอนกรีตเป็นถนนทางเข้าหน้าบ้านโดยทั่วไปจะมีความหนาอยู่ที่ 15 ซม. หรือ 6 นิ้ว กำลังอัดอยู่ที่ 180-240 ksc ซึ่งแข็งแกร่งพอที่จะรับน้ำหนักรถได้ ทั้งนี้อาจใช้คอนกรีตจากส่วนผสมโดยฝีมือช่าง (อัตราส่วน ปูน : ทราย : หิน = 1 : 1.5 : 3) หรือจะใช้วิธีสั่งปูนสำเร็จที่ผสมมาจากโรงงาน เพื่อความสะดวกและได้คุณภาพตามมาตรฐาน
ทั้งนี้การเทพื้นคอนกรีตทุกขั้นตอนควรเป็นไปอย่างถูกต้องถูกวิธี เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมา โดยเฉพาะความไม่สมบูรณ์ของเนื้อคอนกรีตในสภาพที่ผิวหน้าปูนหลุดร่อนจนเห็น เม็ดหิน ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดต่างๆ ได้แก่
– ส่วนผสมของคอนกรีตไม่เหมาะสม เช่น เลือกใช้คอนกรีตผิดประเภท อัตราส่วนผสมไม่ถูกต้อง มีน้ำในส่วนผสมมากเกินไป หรือน้ำที่ใช้ผสมคอนกรีตไม่สะอาดพอ
– เกิดน้ำส่วนเกินในเนื้อคอนกรีตขณะดำเนินงาน เช่น โดนฝนตกใส่โดยปราศจากการป้องกัน การสลัดน้ำเพื่อที่จะได้ขัดหน้าได้สะดวกขึ้น รวมถึงการแต่งผิวหน้าคอนกรีตเร็วเกินไปก่อนที่น้ำจะเยิ้มขึ้นมาที่ผิวหน้า ทำให้น้ำที่กำลังเยิ้มขึ้นมาถูกดันกลับเข้าเนื้อคอนกรีต ส่งผลให้ผิวหน้าคอนกรีตขาดความแข็งแกร่งจนเกิดการหลุดร่อนได้
ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนการเทพื้นคอนกรีต ที่จะเนรมิตพื้นถนนหน้าบ้านให้เรียบร้อยสวยงาม เหมาะแก่การสัญจรในทุกฤดูกาล ทั้งยังส่งเสริมภาพลักษณ์บ้านในฝันของทุกท่าน ให้ดูงดงามอย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
เทคนิคการเทพื้นถนนคอนกรีตหน้าบ้าน ให้สวยทน
ขั้นตอนการเตรียมพื้นเพื่อเทคอนกรีต
– เริ่มต้นด้วยการปรับระดับดินเดิมให้มีผิวหน้าเรียบ ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ โดยจะต้องลดระดับหน้าดินเผื่อความหนาของทรายและคอนกรีตที่กำลังจะเทด้วย
– จากนั้นทำการกั้นไม้แบบโดยวางแนวของเส้นถนน ในขอบเขตความกว้างยาวตามที่แบบกำหนดไว้ ทั้งนี้ ความยาวของถนนในแต่ละช่วงไม่ควรเกินกว่า 6 เมตร เพราะการยืดหดขยายตัวของถนนอาจทำให้เกิดรอยร้าวได้
– เมื่อปรับผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ให้เททรายจนได้ระดับ หนา 5 cm บดอัดหรือทุบให้แน่น
ขั้นตอนการเทพื้นคอนกรีต
– ต้องมีการเสริมตะแกรงเหล็ก WIRE MESH ขนาด 6 mm @15cm ไว้ในเนื้อคอนกรีตด้วย ซึ่งตามหลักแล้ว ตะแกรงเหล็ก WIRE MESH นี้จะต้องอยู่ในตำแหน่งต่ำกว่าผิวคอนกรีต (เมื่อเสร็จสิ้น) ประมาณ 5 cm เพื่อกันรอยร้าวที่ผิวคอนกรีต
– โดยทั่วไปจะใช้วิธีเทคอนกรีตลงไปให้ต่ำกว่าระดับที่ต้องการแล้วเกลี่ยให้ ทั่ว จากนั้นวางตะแกรงเหล็ก WIRE MESH ก่อนจะเททับอีกรอบให้ได้ตามระดับตามกำหนด หรือ อาจเลือกใช้อีกวิธีหนึ่ง คือ เริ่มต้นด้วยการเสริมลูกปูนก่อนจะวางตะแกรงเหล็ก WIRE MESH ทับ แล้วเทคอนกรีตให้ทั่วพื้นที่จนได้ระดับตามต้องการ วิธีนี้สะดวกตรงที่การเทคอนกรีตสามารถทำได้ในขั้นตอนเดียว
– หลังจากเทคอนกรีตลงไปแล้ว ให้ทำการปรับแต่งผิวหน้าให้เรียบร้อย โดยสามารถใช้ท่อปรับผิวหน้าคอนกรีตเพื่อการตกแต่งผิวที่เรียบเนียน ในขั้นตอนนี้นอกจากการปรับแต่งผิวหน้าของคอนกรีตแล้ว อาจมีการตกแต่งเพิ่มเติม เช่น การกรีดผิวหน้าเป็นลายเพื่อกันลื่น การประดับพื้นผิวด้วยการปูกระเบื้อง หรือแม้กระทั่งการทำคอนกรีตพิมพ์ลายเพื่อความสวยงาม
– เมื่อทิ้งไว้จนผิวคอนกรีตเริ่มแข็งตัว ควรบ่มพื้นถนนคอนกรีตโดยฉีดน้ำให้ชุ่มทุกวันติดต่อกัน 7 วัน เพื่อ ให้คอนกรีตมีความคงทนแข็งแกร่งเต็มที่ ขั้นตอนนี้นับว่าจำเป็นมากเพราะหากไม่บ่มคอนกรีตหรือบ่มในระยะเวลาไม่เหมาะ สม จะทำให้คอนกรีตมีประสิทธิภาพในการรับแรงที่ต่ำกว่าที่ควร ทั้งยังอาจทำให้สารต่างๆ ซึมเข้าสู่เนื้อคอนกรีต ส่งผลให้เหล็กเสริมเป็นสนิมง่าย จนทำให้คอนกรีตเกิดการแตกร้าวเสียหายได้ในที่สุด
– ขั้นตอนสุดท้าย หลังจากที่เนื้อคอนกรีตแห้งแข็งตัวอย่างสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว จะต้องทำการกรีดร่องตามตำแหน่งรอยต่อคอนกรีต กว้าง 1 cm ลึก 1.5 cm แล้วหยดยางมะตอยระหว่างช่อง เพื่อกันไม่ให้น้ำซึมลงไปในร่องรอยต่อหรือรอยร้าว เป็นการป้องกันดินทรุด